สูตร ต้มจับฉ่าย หมูสามชั้นสูตรโบราณใส่อะไรบ้าง

ต้มจับฉ่าย หมูสามชั้นสูตรโบราณ

วันนี้เราขอนำเสนอ เมนู ต้มจับฉ่าย เป็นอาหารสัญชาติจีนที่เราจะเห็นได้ว่าหลาย ๆ ร้านมักจะทำขาย อาจเป็นเพราะว่าด้วยวัตถุดิบที่หาได้ไม่ยากบวกเครื่องปรุงไม่กี่ชนิด ทำให้เกิดต้นทุนที่ไม่สูงแล้วได้ปริมาณมาก แถมยังเก็บไว้ได้นานอาหารชนิดนี้ก็เลยเป็นที่นิยม และบางคนก็ชอบชนิดที่ว่ากินเป็นประจำเลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว ต้มจับฉ่ายสูตรโบราณ นั้น มีเรื่องเล่าว่าเมนูนี้เกิดจากพ่อครัวที่ไม่มีวัตถุดิบทำอาหารให้ลูกค้า ก็เลยนำผักที่เหลืออยู่มารวมกันแล้วนำไปปรุงรสต้มกับหมู เมื่อลูกค้ากินแล้วเกิดความอร่อยก็เลยทำให้เมนูนี้มีขึ้นตั้งแต่นั้น แต่จะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จก็ไม่มีใครรู้แน่ชัด เดี๋ยวเรามาดูกันว่า ต้มจับฉ่ายใส่อะไรบ้าง มาทำ ต้มจับฉ่ายไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

วัตถุดิบ / เครื่องปรุง

– หมูสามชั้น
– รากผักชี
– น้ำเปล่า
– ซีอิ๊วขาว
– ซีอิ๊วดำ
– น้ำตาลปี๊บ
– กระเทียม
– พริกไทย
– ซอสหอยนางรม 
– เห็ดหอม
– ขึ้นฉ่าย
– หัวไชเท้า
– ผักกวางตุ้ง
– ผักกาดขาว
– ผักคะน้า
– ผักปวยเล้ง
– ผักโขม
– ดอกกะหล่ำ
– แครอท

ต้มจับฉ่าย วิธีทํา

1. นำหมูสามชั้นไปล้างทำความสะอาดแล้วหั่นให้เป็นชิ้นๆ

2. ล้างผักทุกอย่างที่เตรียมไว้ให้แล้วหั่นรอไว้ให้เรียบร้อย


3. โขลกกระเทียม, พริกไทย และรากผักชีให้เป็นเนื้อเดียว

4. นำวัตถุดิบที่โขลกแล้วลงไปผัดกับน้ำมันให้เกิดกลิ่นหอม

5. นำหมูสามชั้นที่เตรียมไว้ลงไปผัดจนสุก ตามด้วยผักชนิดอื่นผัดแค่พอสุกแล้วปิดไฟ

6. เทน้ำเปล่าใส่หม้อแล้วรอให้น้ำเดือด จากนั้นนำสิ่งที่ผัดแล้วทั้งหมดใส่ลงไป

7. ทิ้งระยะเวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง หรือจนกว่าผักจะเปื่อย

8. เพิ่มรสชาติด้วยซีอิ๊วขาว, ซีอิ๊วดำ, ซอสหอยนางรม และน้ำตาล

9. เมื่อทุกอย่างเปื่อยได้ที่แล้ว ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

และทั้งหมดนี้คือขั้นตอนของการทำ ต้มจับฉ่ายหมูสามชั้นสูตรโบราณ ซึ่งทำได้ง่ายมาก ๆ แต่ต้องมีเวลาประมาณหนึ่ง อีกทั้งความหอมอร่อยอาจไม่ได้อยู่เฉพาะแค่การปรุงเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับชนิดของผัก ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเลือกผักให้ครบตามสูตรเป๊ะ ๆ ก็ได้ แต่ให้เลือกเอาผักที่ชอบเพื่อที่จะได้กินได้ง่าย ส่วนเวลาในการต้มก็มีผล ยิ่งต้มนานเท่าไหร่ก็จะทำให้รสชาติซึมเข้าไปในเนื้อ นอกจากนี้การผัดผักกับเครื่องเทศก่อนที่จะนำไปต้มก็มีส่วนช่วยทำให้ผักลดความขมลงไปได้ด้วย ใครที่อยากได้สุขภาพเมนูนี้ก็ถือเป็นเมนูที่น่าสนใจ เพราะว่าให้พลังงานที่ไม่สูงมาก

แชร์บทความที่ชอบ